คอนกรีตความร้อนต่ำซีแพค

รายละเอียด
     คอนกรีตที่ถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมปริมาณความร้อน เนื่องจากโดยทั่วไป คอนกรีตจะมีการคายความร้อนออกมา หลังจากที่ซีเมนต์ในคอนกรีตทำปฎิกิริยากับน้ำ โดยเฉพาะโครงสร้างที่มีความหนามากกว่า 50 ซม.ขึ้นไป ความร้อนที่สะสมอยู่ภายในโครงสร้างอาจมีอุณหภูมิสูงมากกว่า 70 องศาเซลเซียส จึงก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิที่ผิวและอุณหภูมิภายในโครงสร้าง (Differential Temperature) ทำให้คอนกรีตเกิดการหดตัวและการยึดรั้งที่ต่างกัน ในที่สุดคอนกรีตก็จะแตกร้าว (Thermal Crack) น้ำและความชื้น อาจซึมผ่านโครงสร้างคอนกรีตเข้าไปทำลายเหล็กเสริม ทำให้โครงสร้างไม่สามารถรับน้ำหนักได้ตามที่ออกแบบไว้ 

คุณสมบัติ
  • เป็นคอนกรีตที่ถูกออกแบบมาเพื่อคายความร้อนต่ำกว่าคอนกรีตปกติ
  • เนื้อคอนกรีตมีความลื่นไหล เทง่าย จี้เขขย่าได้ง่าย ช่วยลดเวลาการทำงาน
  • กำลังอัดในระยะยาวสูงกว่าคอนกรีตทั่วไป
  • มีการเยิ้มน้ำ การแยกตัวและหดตัวต่ำ

 

เหมาะสำหรับงานประเภท
โครงสร้างที่มีความหนามากกว่า 50 ซม. ขึ้นไป เช่น ฐานรากขนาดใหญ่ คานขนาดใหญ่ เขื่อนคอนกรีต 

วิธีการบ่มด้วยฉนวน (Insulation Cure)
การบ่มคอนกรีตด้วยฉนวนเพื่อควบคุมไม่ให้อุณหภูมิที่ผิวถูกถ่ายเทเร็วเกินไป จนทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิภายในและภายนอก จนทำให้เกิดการหดตัวที่แตกต่างกัน และนำไปสู่การแตกร้าว

การบ่มด้วยฉนวน มีวิธีการ ดังนี้
1. คลุมด้วยแผ่นพลาสติก โดยให้รอยต่อของแผ่นพลาสติก วางทับกันและให้มีระยะที่ทับกันไม่น้อยกว่า 15 ซม.
2. วางโฟมที่มีความหนาอย่างน้อย 2 ซม. บนแผ่นพลาสติก
3. คลุมทับอีกครั้ง ด้วยแผ่นพลาสติก โดยให้รอยต่อของแผ่นพลาสติก วางทับกันและให้มีระยะที่ทับกันไม่น้อยกว่า 15 ซม.
4. ควรหาวัสดุวางทับเพื่อไม่ให้แผ่นพลาสติกปลิว
5. ในกรณีที่มีการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิของคอนกรีตในโครงสร้าง สามารถพิจารณาระยะเวลาในการปลดฉนวนออก โดยรอจนอุณหภูมิคอนกรีตที่แกนกลางลดลงมาในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดการแตกร้าว (อุณหภูมิที่แกนกลางคอนกรีต สูงกว่า อุณหภูมิอากาศ ไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส)

 

คำแนะนำในการใช้งาน และข้อควรระวัง
1. แบบหล่อด้านข้างควรใช้แบบไม้ เพราะมีค่าความเป็นฉนวนความร้อนที่ดี
2. ควรบ่มคอนกรีตหลังการเทด้วยฉนวน เช่น โฟม หรือการเททรายหนาประมาณ 5 ซม. เพื่อทำให้อุณหภูมิในโครงการมีค่าใกล้เคียงกัน
3. สำหรับฐานรากขนาดใหญ่ที่มีการแบ่งเทเป็นชั้นในแนวนอน ควรคำนึงถึงเหล็กเสริมบน ระหว่างชั้นที่เท เพื่อป้องกันการแตกร้าวของคอนกรีตที่ผิวบน (โปรดพิจารณาให้เป็นไปตามมาตรฐาน ACI 207.2R)